วิธีจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ผ่านระบบ D-Ticket สะดวก รวดเร็ว ทำตามได้ง่ายๆ

แชร์

การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ตอบสนองความนิยมในการใช้รถไฟของชาวไทย โดยเปิดบริการ จองตั๋วรถไฟออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะมาใช้บริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต E-Ticket (e-TSRT) ผ่านหน้าเว็บไซต์การรถไฟฯ www.railway.co.th หรือ www.thairailwayticket.com ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมชำระค่าโดยสารรถไฟผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ทันที เป็นการยกระดับมาตรฐานบริการรถไฟไทยสู่สากล

จองตั๋วรถไฟจองตั๋วรถไฟ

ช่องทางการจองตั๋วรถไฟ

  1. จองผ่านเว็บไซต์ D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th
  2. จองที่เคาน์เตอร์สถานีรถไฟทั่วประเทศ
  3. โทรจองผ่าน Call Center 1690 : จองล่วงหน้าได้ 5-30 วันก่อนเดินทาง

ช่องทางการจองตั๋วรถไฟช่องทางการจองตั๋วรถไฟจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าได้กี่วัน

ระบบ D-Ticket เปิดให้จองตั๋วออนไลน์ทุกวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

  • รถด่วนและด่วนพิเศษ : จองล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วัน
  • รถเร็วและรถนำเที่ยว : จองล่วงหน้าได้สูงสุด 30 วัน
  • รถชานเมืองและรถแบบที่นั่งอิสระ : ซื้อได้ในวันเดินทาง

ขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ผ่าน D-Ticket

  1. เข้าเว็บไซต์หรือแอป D-Ticket: ไปที่ dticket.railway.co.th หรือเปิด แอป D-Ticket

  2. สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบด้วยอีเมล/เบอร์โทรศัพท์

  3. เลือกเส้นทางและวันเดินทาง: ระบุสถานีต้นทาง-ปลายทาง, วันที่เดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร

  4. เลือกขบวนรถและประเภทที่นั่ง: ตรวจสอบเวลารถไฟและเลือกที่นั่ง (เตียงบน/เตียงล่าง)

  5. ตรวจสอบข้อมูล: ตรวจสอบรายละเอียดการจองและที่นั่งอีกครั้ง

  6. ชำระเงิน: จ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือ QR Code

  7. รับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (PDF): ตั๋วจะถูกส่งไปที่อีเมล สามารถแสดงไฟล์ PDF ผ่านมือถือได้ ไม่ต้องปรินต์

ขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟออนไลน์

วิธีการชำระเงิน จองตั๋วรถไฟออนไลน์

สามารถเลือกชำระได้ผ่านบัตรเครดิตทั้งระบบวีซ่า, มาสเตอร์ การ์ด, เจซีบี และบัตรเดบิตของธนาคารกรุงเทพ โดยมีค่าบริการ ดังนี้

  • ตั๋วโดยสาร ชั้น 1 ค่าบริการ 40 บาทต่อ 1 ที่นั่ง
  • ตั๋วโดยสาร ชั้น 2 ค่าบริการ 30 บาท ต่อ 1 ที่นั่ง
  • ตั๋วโดยสาร ชั้น 3 ค่าบริการ 20 บาท ต่อ 1 ที่นั่ง

วิธีรับตั๋วและแสดงตั๋ว

  • ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (PDF): ระบบจะส่งตั๋วไปยังอีเมลของคุณ ใช้ไฟล์ PDF โชว์ในโทรศัพท์ได้เลย ไม่ต้องปรินต์

  • จองผ่านแอปพลิเคชัน: สามารถแสดงตั๋วจากแอป D-Ticket โดยไม่ต้องปรินต์ QR Code

Waiting ListWaiting List

ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดตัวบริการใหม่ “Waiting List” คือ บริการสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการสำรองที่นั่งเมื่อขบวนรถเต็ม โดยหากมีการยกเลิกหรือคืนตั๋ว ผู้โดยสารใน Waiting List จะได้รับแจ้งเตือนผ่านอีเมลทันที เพื่อให้สามารถจองและชำระเงินภายใน 3 ชั่วโมง บริการนี้ใช้ได้เฉพาะสมาชิกที่ยืนยันตัวตนผ่านระบบ D-Ticket เท่านั้น

วิธีการจอง Waiting List

  1. จองผ่านเว็บไซต์ D-Ticket, แอปพลิเคชัน SRT D-Ticket (Android/iOS) หรือ ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ
  2. เมื่อที่นั่งเต็ม ระบบจะแสดงฟังก์ชัน “Waiting List” เพื่อให้ลงทะเบียนเข้าคิว
  3. รับการแจ้งเตือนผ่านอีเมล์ เมื่อมีที่นั่งว่าง และดำเนินการจองทันที

ขบวนรถที่ให้บริการ Waiting List

  • ขบวนรถด่วนพิเศษ
  • ขบวนรถด่วน
  • ขบวนรถเร็ว
  • ขบวนรถนำเที่ยว

เงื่อนไขการซื้อและจองตั๋วรถไฟผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-TSRT)

  • จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ให้บริการเฉพาะตั๋วผู้ใหญ่ (เต็มราคาที่ไม่ใช้สิทธิ์ลดราคาใดๆ) และตั๋วเด็ก (มีสิทธิ์ลดราคา 50% และมีส่วนสูงตั้งแต่ 100 เซนติเมตร ขึ้นไปและไม่เกิน 150 เซนติเมตร เท่านั้น)
  • จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ให้บริการเฉพาะขบวนรถเชิงพาณิชย์ใน 3 เส้นทาง (ไม่รวมขบวนรถนำ เที่ยว) ดังนี้ – เส้นทางสายเหนือ – เส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ – เส้นทางสายใต้ (ไม่รวมขบวนรถนำเที่ยวและรถไฟฟรี)
  • ผู้โดยสารต้องสมัครสมาชิกที่ระบบ e-TSRT ก่อนเพื่อใช้ในการสำรองที่นั่ง โดยมีระยะเวลาการจำหน่ายตั๋วรถไฟและสำรองที่นั่งได้ล่วงหน้าไม่เกิน 60 วัน จนถึงอย่างช้าก่อนขบวนรถออก 2 ชั่วโมง
  • สามารถสำรองที่นั่งได้ 4 ที่นั่งต่อการทำรายการ 1 ครั้ง
  • สามารถเลือกที่นั่งได้เอง หรือให้ระบบทำการเลือกที่นั่งให้โดยอัตโนมัติ
  • ที่สำคัญเมื่อทำรายการจบ ผู้โดยสารต้องสั่งพิมพ์ตั๋วรถไฟที่ได้จากระบบเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันในวันเดินทางด้วย ไม่สามารถแสดงตั๋วผ่านสมาร์ทโฟนได้

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการจองตั๋วรถไฟ

  • ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล : ชื่อบนตั๋วต้องตรงกับผู้เดินทาง เพื่อประกันภัยผู้โดยสาร
  • การจองตั๋วหลายที่นั่ง : ปัจจุบันจำกัดให้จองได้สูงสุด 4 ที่นั่งต่อครั้ง
  • การแก้ไขข้อมูลตั๋ว : หากมีข้อผิดพลาด รีบแจ้งสถานีที่ซื้อภายใน 1 ชั่วโมง

การยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงิน

  • ผู้โดยสารสามารถยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินผ่านระบบ e-TSRT โดยจำ นวนเงินที่ได้คืน ระบบจะทำการคืนเข้าสู่บัญชีบัตรเครดิต/เดบิตที่ใช้ในการซื้อ หรือ
  • ผู้โดยสารสามารถนำตั๋วไปยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินได้ที่สถานีรถไฟทุกสถานี โดยเจ้าหน้าที่ที่สถานีจะทำการรับเรื่องไว้ และจะทำการคืนเงินเข้าสู่บัญชี บัตรเครดิต/เดบิตที่ใช้ในการซื้อ
  • ยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินค่าโดยสาร จะต้องเสียค่าบริการเพิ่ม ดังนี้ ชั้น 1 ค่าบริการ 40 บาทต่อ 1 ที่นั่ง ชั้น 2 ค่าบริการ 30 บาทต่อ 1 ที่นั่ง และชั้น 3 ค่าบริการ 20 บาทต่อ 1 ที่นั่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

  • ดาวน์โหลดเพื่อดูขั้นตอนและวิธีการ จองตั๋วรถไฟออนไลน์ : www.railway.co.th
  • เว็บไซต์จองตั๋ว : www.thairailwayticket.com
  • เว็บไซต์การรถไฟฯ :  www.railway.co.th
  • สอบถามโทร. : +66 63 205 3138 , +66 63 205 3139

สรุป การจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ผ่านระบบ D-Ticket เป็นวิธีที่สะดวกและง่าย ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางได้ล่วงหน้า โดยเฉพาะขบวนรถพิเศษ CNR ที่เปิดให้จองได้ถึง 90 วัน เตรียมตัวให้พร้อมและจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อให้ได้ที่นั่งตามที่ต้องการ

ดูเนื้อหาต้นฉบับ

ที่มา : https://www.sanook.com/travel/1402309/
ขอขอบคุณ : https://www.sanook.com/travel/1402309/

เรื่องที่เกี่ยวข้อง



บัตรกดเงินสด ซิตี้ เรดดี้เครดิต

บัตรเครดิต ซิตี้ ลาซาด้า

บัตรเครดิตซิตี้ แกร็บ

บัตรเครดิต ซิตี้ แคชแบ็ก แพลตตินั่ม

บัตรเครดิต ซิตี้ รีวอร์ด